เลขที่ 15 57363924 นายณัชพล แสงพรม
การวิพากษ์วรรณกรรม
ประกอบรายวิชา 001222 ภาษา สังคม และวัฒนธรรม
โดย นาย ณัชพล
แสงพรม
รหัสประจำตัว
57363924
คณะ วิศวกรรมศาสตร์
สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
ชื่อวรรณกรรม เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับสายฟ้าที่หายไป
แต่งโดย ริก ไรออร์แดน
แปลโดย
(ถ้ามี) ดาวิษ
ชาญชัยวานิช
พิมพ์ครั้งที่ 7
สำนักพิมพ์ เอ็นเธอร์บุ๊คส์, สนพ.
ปีที่พิมพ์ 2553
จำนวนหน้า 392
เนื้อหาโดยย่อ
เพอร์ซีย์ แจ็กสัน เด็กชายอายุ 12 ปีตัดสินใจเล่าประสบการ์ณที่น่าตกใจ
ที่ได้เกิดขึ้นกับเขาในปีที่ผ่านในวันแรกของฤดูร้อนหลังจากจบการศึกษาเกรดหก เพอร์ซีย์ แจ็กสัน
ได้พบว่าเค้าไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์ ธรรมดาๆ สามัญทั่วไป
เขานั้นเป็นมนุษย์ครึ่งหนึ่ง และยังเป็นเทพอีกครึ่งหนึ่ง
เขาได้ถูกนำตัวไปค่ายเลือดผสมในนิวยอร์ก ค่ายสำหรับเด็กที่เป็นเลือดผสม
เป็นที่พักและบ้านที่ปลอดภัยจากสัตว์ร้าย อสูรกายที่คอยตามล่าพวกเลือกผสม
ที่ค่ายนี้
เพอร์ซีย์ รู้เกี่ยวกับพ่อของตัวเองว่าเป็นใคร พ่อของเขาคือ เทพเจ้าแห่งท้องทะเล
โพไซดอนและพี่ชาย น้องชายของพ่อเขา ซุสและเฮเดียส
และยังได้รับรู้ว่าทำไมถึงมีปีศาจที่จ้องจะทำร้ายเขา เนื่องจากวคิดว่าเขานั้นขโมย
สายฟ้า อาวุธที่ทรงพลังที่สุดที่เคยมีมาไป และซุสเองก็ยังคิดว่าเขานั้นได้ขโมยไป
จึงได้กล่าวคำขู่แก่โพไซดอนว่า “ถ้าลูกของเจ้าไม่นำสายฟ้ามาคืนให้แก่ข้าก่อนวันครีษมายัน
ข้าจะประกาศส่งครามกับเจ้า”
เพอร์ซี่
โกรเวอร์ และแอนนาเบธตั้งเป้าหมายที่จะเอาสายฟ้าของซุสมาคืน
ซึ่งทั้งสามนั้นคิดว่ามันอยู่ในนรกของเฮเดียส ทั้งสามคนนั่งรถเมล์รถไฟรถบรรทุกและรถแท๊กซี่เพื่อเดินทางข้ามอเมริกาจากนิวยอร์กไปยังลอสแอนเจลิสซึ่งเป็นที่ตั้งของประตูนรก
พวกเขาหยุดในเซนต์หลุยส์เดนเวอร์และลาสเวกัสไปพร้อมกัน
ในระหว่างการสืบเสาะของพวกเขาต่อสู้กับอสูรกายที่ชั่วร้ายเช่นเมดูซ่า พวกเขาถูกหลอกโดยเทพเจ้าแห่งสงคราม พวกเขาเกือบจะติดอยู่ในคาสิโนที่ลาสเวกัส ที่มีเสน่ห์แต่อันตราย
แต่เมื่อไปถึงที่นั้นสายฟ้าไม่ได้อยู่กับเฮเดียส แต่อยู่ๆมันก็ปรากฎขึ้นจากกระเป๋าของเพอร์ ในตอนที่เขากำลังเจรจากับเฮเดียสอยู่
เพอร์ซีย์หลบหนีความโกรธของเฮเดียสและเอาชนะแอเรียสเทพสงครามเพื่อถามหาหัวขโมยตัวจริงและนำหมวกแห่งความมืดคืนให้กับเฮเดียส
และได้นำสายไปกลับไปคืนให้กับซุสและเล่าเรื่องของหัวขโมยให้ซุสฟังแต่เพอร์ซีย์
ก็ยังไม่ทราบถึงหัวขโมยตัวจริง
เพอร์ซีย์ได้รู้ถึงหัวขโมยตัวจริงเมื่อเขาได้กลับไปที่ค่ายของเขา
และหัวขโมยตัวจริงนั้นก็คือ ลุค
เพื่อนของเค้าที่ได้ย้ายข้างมาจงรักภักดีกับโครนอสเพื่อจะได้ล้มล้างเทพโอลิมปัส
คุณค่าของวรรณกรรมที่ได้อ่าน
เป็นวรรณกรรมที่ทำให้เราได้คิดและติดตามเนื้อหา
ในเนื้อเรื่องนั้นผมได้คิดตามวรรณกรรมนั้นอย่างสนุกสนาน เนื่องจากในวรรณกรรมได้แฝงปริศนาซ่อนไว้ในคำพูดต้นเรื่อง
และบุคลิคตัวละครแต่ล่ะตัวแม่กระทั่งเนื้อเรื่องก็ยังใบ้ไปถึงปริศนาให้ได้คิดติดตาม
โดยจากในวรรณกรรม ตัวละครที่ปรากฏในเรื่อง
มีคุณลักษณะนิสัยที่ควรเอาอย่างและไม่ควรเอาอย่างปนผสมกันไป ไม่ว่าจะเป็นนิสัยที่ไม่ฟังใคร หรือความหัวรั้นเมื่อเรานำไปใช้ให้ถูกที่ถูกทางก็จะมีประโยนช์ที่แตกต่างกันไป
หรือบางนิสัยก็ไม่ควรใช้เลย
คุณค่าในด้านของภาษาที่สะท้อนชัดเจนคือการใช้ภาษาสื่อสารกันมีการอนุรักษณ์ภาษากรีกโบราณและยังใช้ภาษากรีกโบราณเพื่อบอกเล่าอดีตของรูปภาพภายในเรื่องอีกด้วย
คุณค่าด้านสังคมก็คือการที่คนกลุ่มน้อยยอมทำสิ่งที่จะช่วยยุติสงครามของคนกลุ่มอื่นเพื่อจะได้ยับยั้งผลเสียที่จะเกิดแก่คนหมูมาก
คุณค่าด้านวัฒนธรรมเราจะได้เห็นวัฒนธรรมและประเพณีของคนในค่ายซึ่งอยู่ร่วมกันมาก่อนและเราพึ่งเข้าไปพบเจอวัฒนธรรมในค่ายและการพูดคุยและการเคารพนับถือทวยเทพที่เป็นพ่อแม่
หรือญาติของพวกเขาด้วยนั่นเอง
บริบททางสังคมและวัฒนธรรมจากการอ่าน
ในวรรณกรรมเรื่องนี้บริบททางสังคมที่แสดงออกมามีการกล่าวถึงสงครามและผลกระทบของสงครามที่จะเกิดเนื่องจากและสาเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้น
แต่ถ้าผู้มีอำนาจภายในเรื่องก่อส่งครามเพื่อแย่งชิงอำนาจจะเกิดผลเสียต่างๆ มากมาย
และจึงมีการเลือกเส้นทางการเจรจาและพูดคุยเป็นสื่อกลางในการยุติสงครามโดยให้การค้นหาและการแก้ไขปัญหาโดยคนกลุ่มหนึ่งเพื่อยุติผลเสียที่จะเกิดแก่คนส่วนมากที่ไม่ได้รับรู้ด้วย